เหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง
ผู้เล่ากล่าวว่าคนที่เล่าเรื่องตายแล้วไปไหน ให้ผมฟังเป็นเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง เขาเล่าว่าเหตุเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศวังเวงในบริษัทเก่าแก่แห่งหนึ่ง
ตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งร่ำลือกันว่าเมื่อครั้งอดีตเคยเป็นป่าช้ามาก่อน มีประวัติโจษจันเล่นขานกันมากมายที่เดียวเกี่ยวกับเจ้านายดุและผีหลอก
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม ไม่ปรากฏปี
นางสาวกิ่งแก้ว(นามสมมติ) พนักงานพิมพ์ดีดวัยเบญจเพส มีภารกิจการงานต้องสะสางมากมาย วุ่นวายเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นการทำงานวันสุดท้ายในรอบปี รวมทั้งรุ่งขึ้นพรุ่งนี้จะย่างเข้าสู่ช่วงของลองวีคเอนด์ ตลอดวันนั้นจึงเกือบๆ
จะมีสภาพเป็นวันโลกาวินาศ สำหรับกิ่งแก้วโดยแท้ เธอต้องเคร่งเครียดหมกมุ่นอยู่กับงานตั้งแต่เช้าจนบ่าย (และไม่มีเวลาว่างกินข้าวมื้อกลางวัน) กระทั่งเคลื่อนคล้อยกลายเป็นค่ำ เพื่อนร่วมงานหลายคนค่อยๆ ทยอยแยกย้ายกันกลับบ้าน
ทำไปทำมาท้ายที่สุดทั้งบริษัทก็เหลือเธออยู่เพียงคนเดียว ตอนนี้ล่ะบรรยากาศในตึกเก่าๆ ทึมๆ แสงไฟสลัวจนแลดูแล้วชวนสยอง รวมทั้งเสียงแกรกกรากของกระดาษกระพัดกระพือ และอะไรต่อมีอะไรก็เริ่มแสดงบทบาทหน้าที่ของตนเองออกมาชัดเจน และค่อยๆ ทบทวีความวังเวงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่กิ่งแก้วทำงานของเธอเสร็จสรรพ และเตรียมตัวเก็บข้าวของเพื่อจะกลับบ้าน เธอเหลือบชำเลืองมองไปยังผนังกำแพงด้านใกล้ๆ โต๊ะทำงาน พลันก็ต้องตกใจสุดขีด ส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่น สีหน้าซีดเผือดราวกับเลือดในกายเหือดแห้งหมดร่าง สิ่งที่กิ่งแก้วเจอนั้น....ทำให้เธอเป็นเช่นนี้...สิ่งนั้นคือ.........................ใช่แล้ว...สิ่งที่กิ่งแก้วพบคือ...
ปฏิทินนี่เอง!!!!!!!!!!!!!!!
และสาเหตุที่ทำให้กิ่งแก้วตกใจเจ้าปฏิทิน ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะตกใจเลย เธอต้องพบเห็นกับวันหยุดต่อเนื่องยาวนายหลายวัน ทำให้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ตระเตรียมวางแผนจะไปเที่ยวไหนในช่วงวันหยุด เหล่านี้เอง เป็นเหตุให้กิ่งแก้วต้องอุทานออกมาว่า
.........ตายแล้ว....จะไปไหนดี
EmoticonEmoticon